ว่านชักมดลูกแคปซูล ทิพย์โอสถ
คุณแม่สุจินต์ ภู่แย้ม ทายาททิพย์โอสถยาไทย สมุนไพรเพื่อสุขภาพ เล่าว่า เดิมตำรับยาของทิพย์โอสถยาไทย เป็นของ พระอธิการบัวเซี้ยง ธมฺมสโร(หลวงพ่อร่อน) อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองอ้อ ต.บ้านสิงห์ อ.โพธาราม จ.ราชบุรีผู้เป็นบรมครูตำรับยาทิพย์โอสถยาไทย (คุณแม่สุจินต์ ภู่แย้ม เป็นหลานของหลวงพ่อร่อน) หากนับกาลเวลาตำรับยาทิพย์โอสถยาไทยจากอดีตถึงปัจจุบันก็เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 80 ปี ด้วยประสบการณ์และคุณภาพที่ยาวนานกว่า 80 ปีก็เป็นที่ยอมรับในประชาชนแถบจังหวัดราชบุรี เพชรบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี เป็นต้น หลังจากทีทิพย์โอสถยาไทย ได้แผ่หลายไปยังภาคอื่นๆทั่วประเทศและประชาชนทั่วไปที่ได้ใช้ให้การยอมรับในคุณภาพของฤทธิ์ยาในตำรับยาต่างๆของทิพย์โอสถยาไทย คุณแม่สุจินต์ ภู่แย้ม ได้มีความคิดที่จะพัฒนาตำรับยาต่างๆของทิพย์โอสถยาไทยให้ถูกต้องตามกฎกระทรวงสาธารณสุข จึงคิดจะสร้างโรงงานและจะได้แยกขบวนการผลิตให้ถูกต้องตามคณะกรรมการอาหารและยา(อย)ที่ได้กำหนดไว้อย่างเป็นระบบและได้มาตรฐาน เพื่อรองรับมาตรฐาน GMP อย. และเครื่องหมายรับรองฮาลาล รวมถึงมาตรฐาน HACCP เพื่อที่จะรับประกันแก่ผู้บริโภคว่าโรงงานของเราได้มาตรฐานสะอาด ปลอดภัยเป็นสัดเป็นส่วน ก่อนอื่นต้องบอกว่าคุณแม่สุจินต์ จบการศึกษาเพียงชั้นประถม4 เท่านั้น จนเมื่อประมาณปี พ.ศ.2545คุณแม่สุจินต์ ได้ไปปรึกษาสาธารณะสุขจังหวัดราชบุรีทางสาธารณะสุขจังหวัดราชบุรีก็ให้คำปรึกษาเป็นอย่างดีมากในการขึ้นทะเบียนยาว่ามีระเบียบระบบแบบแผนขั้นตอนอย่างไรบ้าง คุณแม่สุจินต์ ก็เริ่มสร้างโรงงานผลิตยาแผนโบราณตั้งแต่ปี พ.ศ.2545ตามคำแนะนำของสาธารณะสุขจังหวัดราชบุรี และได้เริ่มดำเนินงานต่างๆมาตลอดถึงแม้จะมีอุปสรรคบ้าง ท่านก็ไม่เคยย่อท้อในอุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้น จนในที่สุดความพยายามของคุณแม่สุจินต์ก็สมหวัง ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้ออกใบโรงงานอนุญาตผลิตยาแผนโบราณให้ในเดือนมกราคม พ.ศ.2551 กว่าจะได้ใบโรงงานผลิตยาแผนโบราณก็ใช้เวลา 5-6 ปี พอได้ใบโรงงานอนุญาตผลิตยาแผนโบราณแล้ว คุณแม่สุจินต์ ก็ดำเนินการขออนุญาตขึ้นทะเบียนยาจากกระทรวงสาธารณะสุขเพื่อที่จะรับประกันแก่ผู้บริโภคว่าโรงงานของเราได้มาตรฐานสะอาด ปลอดภัยเป็นสัดเป็นส่วน จนกระทั่งปลายปี พ.ศ.2551 กระทรวงสาธารณะสุขก็ได้ออกทะเบียนยา(อย) ตำรับแรกของทิพย์โอสถยาไทย สมหวังที่คุณแม่สุจินต์ตั้งใจไว้ หลังจากที่คุณแม่สุจินต์ ภู่แย้ม ได้ใบโรงงานอนุญาตผลิตยาแผนโบราณจากกระทรวงอุตสาหกรรมและได้ใบทะเบียนยาที่กระทรวงสาธารณะสุขออกให้เป็นที่สมหวังดังที่ตั้งใจแล้ว คุณแม่สุจินต์ ก็มีแนวคิดที่จะขยายตลาด ทิพย์โอสถยาไทย สมุนไพรเพื่อสุขภาพ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นจึงได้ปรึกษากับพวกลูกๆ ว่าจะเปิดศูนย์กระจ่ายสินค้าและศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ทั่วทุกภาคในประเทศไทยเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจทิพย์โอสถยาไทย สมุนไพรเพื่อสุขภาพ จึงได้ดำเนินการเปิดศูนย์กระจ่ายสินค้าไว้ 3 แห่งด้วยกัน 1.ศูนย์กระจ่ายสินค้าภาคกลาง อยู่ที่จังหวัดราชบุรี (สนง.ใหญ่)2.ศูนย์กระจ่ายสินค้าภาคอีสาน อยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา3.ศูนย์กระจ่ายสินค้าภาคเหนือ อยู่ที่จังหวัดเชียงราย แผนการพัฒนาธุรกิจในอนาคตของ ทิพย์โอสถยาไทย สมุนไพรเพื่อสุขภาพ ได้ว่างแผนจะนำสินค้าลงสู่ท้องตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้น เช่น โมเดอร์เทรด คอนวิเนียนสโตร์ และร้านค้าในหมู่บ้านต่างๆทั่วประเทศเพื่อที่ประชาชนทั่วไปจะได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ง่ายขึ้นกว่าเดิม ส่วนวัตถุดิบ ทางทิพย์โอสถยาไทย สมุนไพรเพื่อสุขภาพ สมุนไพรเราปลูกเองและมีลูกไร่คอยป้อนวัตถุดิบให้เราจึงสามารถจัดการระบบวัตถุดิบแบบครบวงจรเพื่อที่จะสามารถควบคุบมาตรฐานการผลิตสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
